วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กตัญญูรู้คุณ

กตัญญูรู้คุณ

อย่าได้เลเสียถิ่มผักกะเดาต้นโกโก่ เดอ บาดฮ่าได้กินลาบฟานยังซิได้แล่นหา

บาดได้กินบาบปลายังสิได้นึกพ้อ คนิงโอ้เมื่อลุน

ยามเมื่อเฮาเซาห้องเมืองหลวงอุทรเทศ เขตบ่กว้างในท้องแคบจั่งโถน

เฮาเอาหัวซุกหม่นซ้นอยู่ในอุทร บ่มีบ่อนยืนท่าเดียวบ่มีย้าน

คันภายในท้องมารดาแก่แน่นอั่ง คือดั่งหินก้อนล้านแขนห้อยผูกคอ

มีแต่นั่งจ้อก้อตั้งต่อหายใจ อนามัยความุขบ่มีสบายหายฮ้อน

เว้าเถิงคุณบ่หน่อยหลายประการฉันสิอ่าน คุณพิ่นมีมากล้นทวีล้ำเล่าหลาย

ยามเมื่อลุกย่างย้ายที่ระวังตัว กลัวจักมีแนวต้องโดนตำให้เจ็บแสบ

เกรงว่าลูกในท้องกระเทือนล้มปวดคิง ฯ

…………………….

อันว่าปิตาไท้มารดาทรงเดช ถือเมตตาว่าไว้จิตมั่นเทียงคง

จงจิตตัง กรณัง ยังหามุทิตามาไว้

อุเบกขาวางกางให้ดวงพระทัยแทนผูก ท่านจึงเลี้ยงลูกเต้าเยาว์น้อยใหญ่มา

มารดามีศีล ๕ ทรกรรมทั้ง ๔ ครั้นบ่มีหมู่นี้อย่าหวังถ่อนสิใหญ่สูง

จับจูงไปหน้าวีเฮาเข้าป่า จบเหวียงถิ่นตายจ้อยแต่เหิง

เฮาได้มาเลิงเล่นดูละครโรงใหญ่ เป็นชาติไทยอยู่สร้างเฮือนย้าวสืบสกุล

ก็เพราะบุญเพิ่นเลี้ยงกลิ้งกล่อมถนอมฮัก คราวรู้จักบุญคุณตอบแทนสนองไว้

คุณเพิ่นนอนไฟกล้าเผากายายามเฮาออก ทางปากกรอกน้ำฮ้อนนอนได้ ๗ วัน

คุณเพิ่นพันหมอยาแพทย์ ตำราเป็นไข้

เป็นสุกใสในเนื้อพุพองฝีดาษ โรคกลากโรคเกลื้อนเพียรให้ใหญ่สูง

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เพิ่นว่าบุญ ๆ นี้

เพิ่นว่าบุญ ๆ นี้ บ่มีไผปันแจก                                      มีแต่พันธ์แต่เกี้ยวเกาะเกียวกุมกัน
มันแหกออกบ่ได้คือไม้ผ่ากลาง                                   มีแต่พันธนังติดต่อกันบ่มีแล้ว
เพิ่นจั่งให้ทำบุญสร้างศีลทานตกแต่ง                           เพิ่นว่าสงสารนี้วนเวียนผลัดเปลี่ยน
สิได้ใสจั่งแก้วมื้อหน้าสิฮุ่งเฮือง                                   มีแต่เวียนแต่เกี้ยวคือล้อรถยนต์
            สิได่เป็นขั่วข้ามสาครม่มฝั่ง                             บ่มีไผหลีกพ้นเกิดแก่เจ็บตาย
สิได้บังเกิดก้ำนิพพานพุ้นสว่างเวร                               มีแต่วนเวียนติดต่อกันบ่มีแล้ว
อันนี้เป็นบุญแท้ของเฮาให้ตั้งตอ                                ไผผู้โมโฮฮ้ายโลภาพยาบาท
คันว่าบุญบ่ให้เขาสิใช้ตั้งแต่เฮา                                   มีแต่อาฆาตซ้ำหง่ำไว้จ่องเวร
            บุญมีได้เป็นนายใช้เพิ่น                                               มันบ่มีทางเสี้ยงเวรกรรมเกาะเกี่ยว
คันแม่นบุญบ่ให้เขาสิใช้ตั้งแต่เฮา                               เจ้าฆ่าข่อยข่อยฆ่าเจ้าเลิงเรื้อยบ่เซา
คอยแต่บุญมาค้ำบ่ทำการมันบ่แม่น                            คือดั่งกากับนกเค้าบ่เข้าฮ่อมแกวกัน
คอยแต่บุญส่งให้มันสิได้ฮ่อมใด๋                                 หนูกับแมวบ่อยู่นำกันได้
             คือจั่งเฮามีข้าวบ่เอากินมันบ่อิ่ม                                  หมีกับไม้พันธนังค้อป่า
มีลาบคันบ่เอาข้าวคุ้ยทางท้องกะบ่เต็ม                      จอนฟอนกับเห่าห้อมบ่มีมื้อถืกกัน
อันนี้ขอกล่าวเว้าให้คิดฮ่ำในทรวง                               มีแต่อนตายต้องจองจำนำผูก
ให้ค่อยตวงใจจิตฮ่ำคนิงนำก้น                                      มีแต่ทุกข์อ้อยต้อยหนักหน้าบ่ถอย

อีสานบ้านเฮา

คิดฮอดเด่คิดฮอดบ้านเขตถิ่นดินอีสานเอานอ
ยากนำแต่ความขัดสนฑ์จั่งได้ไกลเมืองบ้าน
คนอีสานเฮานี้ทุกข์ทวีซ้ำตื่ม
ผื่นแผ่นดินแห้งแล้งพอปานแห้งแอ่งน้ำใจเด่ นอ….
เก้าสิแล้งสิบสิแล้ง ให้เพียรภายภาคภูมิสถานพุ้นเดอ
อันน้ำใจคนเฮาอีสานอย่าสุมียามแล้ง
ให้ฮักแพงพงษ์เชื้อเครืองเดียวอย่าหลุดหล่า
กรูณาอ้ายน้องให้เพียรซ้องซ่อยกัน
อย่าได้หมางเหมียนฮ้างอีสานคำน้องขอดแอ่ง
ขอดกะขอให้ขอดแต่อุแอ่งน้ำทางใจเจ้าอย่าขอดนำ
อีสานคำเฮาแห้งให้โฮมแฮงกันแต่ง
อีสานคำแห้งแล้งโฮมแฮงป้องซ่อยกัน
ให้เจ้ามาพาถ่อนอีสานเฮามาโฮมพวก
เชิญเจ้ามาเหนียงคั้นข้าวเหนียวปั้นซ่อยกัน
อันแนวนามข้าวเหนียวนั้นให้คือตังกับขี้สูด
ปั้นให้แข็งแก่นไว้ปานนั้นจั่งเผื่อพอ
อันแนวนามข้าวเหนียวกะเคยปั้นกินนำกันจ้ำกับแก่ว
คันได้เจียดข้าวจ้าวแล้วอย่าลืมเชื้อเส้นอีสานเฮาเด้อ
อย่าได้ไลลืมก้ำอีสานคำก้ำบ้านเก่า
เสียงแคนดังอิ่นอ้อยถ้าคอยเจ้าให้ต่าวเมือ
เหลือแฮงรัฐบาลเพิ่นฟื้นปลุกปั่นอีสานเขียว
เหลือแฮงโขงชีมูลเพิ่นได้โฮมแฮงสร้าง
เชิญเจ้าเมือยามบ้านอีสานเฮาเขียวแล้วบ่
อย่าได้เขียวแต่ความปากเว้าจิตใจเจ้าให้ต่าวเค็ญ
อย่าฟ้าวไลลืมถิ่มพงษ์พันธ์พี่น้องเก่าเฮาเดอ
อย่าฟ้าวละเผ่าเชื้อไปหลงย่องผู้อื่นดี
ให้เฮามาพากันสร้างอีสานเฮาให้เฮืองฮุ่งกันถ่อน
หมู่พ่อลุงอีแม่ป้าเพิ่นคอยถ้าแต่หมู่เฮ่า….

ฮีต 12

ตกฤดูเดือนอ้าย สายลมมาหนาวหน่วง
เดือนนี้ตกว่างช่วงสังโฆเจ้าเพิ่นเข้ากรรม
เฮามาพากันค้ำทำบุญตักบาตร
ปริวาสซ่อยยู้ซูค้ำศาสนา


ฮอดเดือนสองอย่าวฟ้าวซ้าข้าวใหม่ปลามัน

ให้เฮามาโฮมกันแต่งบุญประทายข้าว

เชิญเจ้ามาโฮมเต้าอย่าพากันขี้ถี่

บุญคุณลานตั้งแต่กี้ พากันให้ฮักษา


ฮอดเดือนสามท้องฟ้าปลอดโปร่งสดใส่
ไปทางใด๋เห็นแต่คนใจบุญซะแซวเป็นคุ้ม
เหลียวเห็นซุมสาวน้อยพากันปั้นข้าวกี่
เฮือนละสี่ ห้า ปั้นพอได้เข้าใส่บุญ
พ่องกะบีบข้าวปุ้นตกแต่งอาหาร
มีเทิงหวานและคาวหนุ่มสาวมาโฮมต้อม


ให้คอยซอมไปทางหน้าเดือนสิมาเป็นเดือนสี่
หลังจากบุญข้าวกี่สิมีบุญพระเวสเจ้าเฮาสิได้แต่งทาน
ขวางเขตบ้านย่านถิ่นดินอีสาน
สุขสำราญเหลือหลายม่วนมิ่งกะเลยต้อน
ตกหว่างตอนคนตั้งใจฟังวอนวี่
ตอนกัณหาชาลีสิพากพ่อแม่แก้วคนสิให้นั่งฟัง
มีเพียงปีละครั้งให้เฮาซ่อยกันสาน
จัดเป็นงานประเพณีให้คนรุ่นหลังฮู้


ตกฤดูเดือนห้า สายลมบ่มาผ่าน
เห็นแต่ดอกจานบานแย้มเต็มทั่วท่งนา
เดือนนี้บ่ได้ช้าปีใหม่มาเถิง
ให้พากันทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ
เต่าสิถามหาบุ้นคนบุญสิมาปล่อย
นกสิงอยง่ายไม้คอยถ้าตั้งแต่ฝน
เดือนนี้ม่วนจ้น ๆ คนกะหลั่งมาหลาย
เอาพระทรายมากองก่อเป็นเจดีย์ไว้


ฮอดเดือนหกเสียงฟ้าไขบอกข่าวทางคน

มีแต่ฝนกับลมส่งเสียงกึกก้อง

สายตามองเห็นแล้วในใจกะให้ม่วน

ส่วนว่าเขียดอีโม้ลำเกี้ยวใส่ผู้สาว

เห็นปลาข่าวปลาซิวปลานิลปลากะเดิด

แล่นหยอกล้อกันเล่นเหลือหลาย

เดือนนี้เหมิดโทษฮ้ายบ่มีเรื่องเลิงหลง

อัศดงดวงอาทิตย์ค่ำลงปลายไม้

เห็นแต่สิใส่เน้นวันเพ็ญสิบห้าค่ำ

วิสาขะเลิศล้ำชาวบ้านบ่อยู่เสย

ไผกะยิ้มเป้ย ๆ ลงวัดเวียนเทียน

ได้เวียนมาเถิงนพคุณคลองเค้า


เดือนเจ็ดเผ่าความฮ้ายอันตรายบ่มาผ่าน
นิมนต์พระขึ้นบ้านเล็งเป้าเข้าสู่ธรรม
บุญสิมาซ่อยค้ำซูส่งราศรี
บารมีผลทานสิไล่มารเลยพ้น
ตั้งแต่คนเฮาได้เคยได้ยินแต่ปางก่อน
บุญชำระสละความเดือดฮ้อนเมืองบ้านสิซุมเย็น
จันทร์เพ็ญแจ้งทอแสงใสสง่า


เดือนแปดมาฮอดแล้วสิแววขึ้นลึ่นหลัง
เดือนนี้สงฆ์เพิ่นยั้งเข้าอยู่จำพรรษา
ภาวนาอบรมข่มใจสุแลงเช้า
เฮามาพากันเข้าทำบุญพร้อมพร่ำ
ถวายผ้าอาบน้ำให้ยาท่านเพิ่นใช้สอย
เดือนแปดคล้อยเห็นลมทั่งใบเสี่ยว
เหลือวเห็นฝูงปลาขาวแล่นมาโฮมต้อม
กบเพิ่นนอนคอยถ้าฝนลงมาสิได้ม่วน
ลงเล่นน้ำโซะซะซัวแซว

เดือนเก้ามาฮอดแล้วบ้านป่าขาดอน
เห็นนกเขางอยคอนส่งเสียงหาซู้
เถิงฤดูเดือนเก้าอีสานเฮาท้องถิ่น
เคยได้ยินประดับดินทานฮอดทอดถวาย
พ้นจากมารหยาบฮ้ายพากันอยู่เป็นสุข
โพยภัยทุกข์อย่าผ่านผายมาใกล้
มีแต่สดใสจ้น ๆ คนจนแสนม่วน
ต่างกะชวนพี่น้องลงโต้งแต่งทาน
ขวางเขตบ้านย้านป่านาหวาย


เถิงเดือนสิบสิก่นมันมาต้ม

พ่องกะงมกอข้าวหาเทากำลังอ่อน

พ่องกะคนต่าน้อยลงห้วยฮ่องนา

เดือนนี้บ่ได้ช้าพากันแต่งทานถง

ข้าวสากลงไปวัดให้หมู่สังโฆเจ้า

มีลาบเทาพร้อมหมกดักแด้ของดีคั่วกุดกี่

ซุบบักมี้กะมาพร้อมพร่ำกัน


เดือนสิบเอ็ดว่านั้นหัวลมอ่วยโซยหนาวสาแล้ว
ส่วนผู้สาวสิขาลายผู้ชายสิขาเกลี้ยง
ได้ยินเสียงลมต้องปลายสำสาอยู่เวิ่นๆ
หมาจอกเอิ้นสั่งซู้กะปูหม่นเข้าฝั่งหนอง
นกแจนแวนออกฮ้องหาคู่ผสมพันธ์
ควายบักเทิกตกมันแล่นต่ำแต่ต่อพร้าว
ฝูงปลาขาวลงโฮมต้อนผู้สาวนอนขึ้ค้านตื่น
ปลาดุกบื่นค่อนสิแจ้งหันหน้าเข้าใส่หลุม
ฟังเสียงฟ้าฮ้องตุ้มเอิ้นสั่งฤดูฝน
ฝูงหมู่คนลงเลาะไฮ่นาปลาข่อน
เดิกออนซอนจันทร์ใสแจ้งทอแสงใสสง่า
ออกพรรษาห่อข้าวต้มลมล่อแต่หมู่ปลา
บัดนี้แล้ววัดสิเป็นกำพร้าบ่มีพระสิมานอน
มาออนซอนแต่ทายกไล่แต่งัวเข้ามาเลี้ยง
ได้ยินเสียงกลองโย้นวันเพ็ญสิบห้าค่ำ
พระสิลาแม่ออกค้ำไตรมาสสิสั่งลา
เหลียวขึ้นเบิ่งท้องฟ้าเห็นแต่บ่าวเดือนสิบสอง
ลมคะนองโชยพัดง่ายมกะเลยมั่น
พอสมควรหาผ้ากฐินทานมาทอด
ตลอดเดือนหนึ่งพุ้นหาได้ดั่งประสงค์
หลวงปู่คงไปหาผ้าหลวงตาดีหาน้ำคั่ง
หลวงปู่สอนนั่นซ้นด้ายหัวซ้ายเข้าใส่กัน
พอแต่ว่างวันโลกมันเปลี่ยนเวียนวัน
ปัจจุบันโยมกะเลยเฮ็อแห่แหนเวียนตั้ง
ต่างกะหวังเต็มที่เอาความดีบ่ดูหมิ่น
บุญกฐินซ่อยค้ำทานทอดให้หมู่สงฆ์

……………………………………………..
ถ่วมหรือแล้งขาดแหว่งบ่สมบูรณ์
ประเพณีทำบุญพ่อแม่เฮาบ่เคยถิ่ม
เอาความดีเป็นลิ่มสลักใจไว้คงถี่
สามัคคียึดไว้อย่าไลถิ่นฮีดคลอง
ทุกข์ยากฮ้ายเฮาฮักแม่นนามคน
แม่สิรวยหรือจนให้พิ่งพากันไว้
คือจั่งเฮือคาแก้งเกวียนเห็นเกวียนได้แก่
คันแม่ไปฮอดน้ำเฮือสิได้แก่เกวียน ฮั่นเด๋ ฯ